วันอังคารที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2551

เกิด แก่ เจ็บ ตาย

วันนี้นั่งดูจิ๋นซีฮ่องเต้เป็นตอนจบ จิ๋นซีทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศจีนอย่างมากมาย สิ่งหนึ่งก็คือ การรวมแผ่นดินจีนเป็นปึกแผ่น และการยกเลิกภาษาต่าง ๆ ให้เหลือภาษาเดียว ส่วนกำแพงเมืองจีนก็เป็นอนุสรณ์สถานของเมืองจีนมาตราบทุกวันนี้

ในช่วงปลายชีวิต จิ๋นซีหมกมุ่นกับชีวิตอมตะมากเกินไป จึงหลงเชื่อคนบางคนในเรื่องของยาอายุวัฒนะ ทั้ง ๆ ที่ก่อน ๆ มา จิ๋นซีเชื่อในหลักเหตุผล และเป็นคนมองการณ์ไกล

ราชวงศ์จิ๋นมีอายุแค่สิบกว่าปีเท่านั้น ทั้งนี้ก็เพราะบุคคลใกล้ชิดที่ไม่ดี และความเชื่อมั่นในตนเองของจิ๋นซีมากเกินไป ซึ่งเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ได้เป็นอย่างดี เวลาที่เราขึ้นเป็นผู้นำ สิ่งหนึ่งที่ต้องระมัดระวังก็คือ คนใกล้ชิด

เรื่องการใช้คนต้องพูดถึงโจโฉ สมัยสามก๊กที่เลือกใช้คนเก่ง และใช้หลักบริหารทีมงานที่ดี ใครทำผิดต้องลงโทษ ใครทำดีต้องให้รางวัล แต่บางครั้งก็ต้องมีการซื้อใจกันด้วย

กลับมาที่จิ๋นซี ก่อนสวรรคต จิ๋นซีมัวหลงตัวเองว่าเป็นเทพ ไม่มีวันตาย จึงไม่ได้วางแผนแต่งตั้งรัชทายาทสืบทอดตำแหน่งที่แน่นอน ทำให้หลังจากสวรรคตไปแล้ว คนที่ดูแลงานเบื้องหลังไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเสียสุดท้าย

ผมจะเปรียบให้กับการทำธุรกิจ สินค้าทุกประเภทจะมีวงจรชีวิต มีทั้งขึ้นและลง ซึ่งหากเราจำหน่ายสินค้าเพียงอย่างเดียว ก็มีโอกาสสูงที่หากสินค้าตัวนั้นอยู่ในช่วงขาลง และเราไม่ได้เตรียมความพร้อมในสินค้าอื่นมาทดแทน ก็อาจส่งผลให้ธุรกิจเสียหายได้

อีกตัวอย่างนึง ก็โฆษณาเศรษฐกิจพอเพียง ที่ไม่ควรปลูกพืชเชิงเดี่ยว ควรปลูกให้หลากหลาย และอยู่รอดได้ด้วยตัวเอง

คือ เราควรมีธุรกิจให้หลากหลาย บางธุรกิจอาจเก็บไว้เพื่อเป็นรายได้เลี้ยงครอบครัว บางธุรกิจสามารถลงทุนเพื่อหากำไรเข้ามา ส่วนธุรกิจที่ไม่ทำกำไรหรือขาดทุน ก็ควรตัดขายออกไปให้คนที่เชี่ยวชาญทำแทน หรือหากเกี่ยวเนื่องกับกลยุทธ์หลัก ก็ต้องพยายามให้อยู่รอดด้วยตนเองให้ได้

พรุ่งนี้ก็จะมีเรื่อง เจงกิสข่านมาแทน ซึ่งก็น่าติดตามเช่นกัน ส่วนหนังจีนชุดอีกเรื่องที่แนะนำให้ดูก็คือ กษัตริย์ราชวงศ์หมิง ทางช่องเก้า โมเตอร์นไนน์ ในวันพฤหัส บ่ายโมง นอกจากนั้นก็มีหนังญี่ปุ่นชุดเกมล่าธุรกิจ ทางช่องไทยพีบีเอส ในวันจันทร์-อังคาร เวลาประมาณสองทุ่มครึ่ง ซึ่งผมดูวันนี้ในตอนแรกเกี่ยวกับธุรกิจซื้อหนี้เสียมาบริหาร และการเตรียมข้อมูลมาต่อรอง น่าติดตามและนำมาประยุกต์ใช้มาก

ไม่มีความคิดเห็น: