วันพุธที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2551

ทา ทา พร้อมหรือยัง

ผมจำได้ว่า ได้อ่านข่าวการเปิดตัวรถยนต์ที่มีราคาที่ถูกที่สุดในโลก เมื่อหลายเดือนก่อน เป็นรถยนต์สัญชาติอินเดีย ราคาอยู่ที่ 2,500 ดอลล่าร์ หรือประมาณแปดหมึ่นบาท ในความคิดของผมต้องบอกว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ทีเดียว

ช่วงนี้ราคาน้ำมันแพงขึ้นทุกวัน คนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัว คงทราบดีว่าสัดส่วนรายจ่ายที่เป็นค่าน้ำมันคำนวนออกมาแล้วเป็นสัดส่วนเท่าไหร่ต่อรายจ่ายทั้งหมด ผมก็มีรถยนต์เก่า ๆ อยู่คันหนึ่ง ซึ่งผมก็ไม่ได้ขับมานานหลายเดือนแล้ว ด้วยที่ว่าโดยส่วนใหญ๋ผมจะนั่งรถประจำทางหรือไม่ก็รถไฟฟ้า หรือไม่ก็เดิน

วันก่อนผมดูรายการพลังงานแห่งอนาคตทางช่องโมเดิร์นไนน์ ผมทึ่งมากเลยกับการนำเอาอากาศมาเป็นพลังงานขับเคลื่อนรถยนต์ โดยผู้คิดค้นใช้วิธีอัดอากาศเก็บไว้ในถัง แล้วนำอากาศในถังมาใช้ในการส่งพลังขับเคลื่อนเครื่องยนต์ ไม่มีไอเสีย เยี่ยมมากเลย

สมัยเด็ก ผมฝันที่จะสร้างรถยนต์ไฟฟ้าขึ้นมา โดยรูปแบบก็คือใช้พลังงานไฟฟ้าต้มน้ำ แล้วใช้ไอน้ำมาผลิตไฟฟ้าเพื่อขับเคลื่อนมอเตอร์ หลักการก็คือรถยนต์ไอน้ำไฟฟ้านั่นเอง ก็เป็นความคิดของผมที่ไม่แน่ใจว่าจริง ๆ แล้วจะสร้างได้หรือเปล่า เพราะผมก็ไม่ได้เรียนมาทางนี้

กลับมาที่รถยนต์ ทา ทา รุ่นถูกที่สุดในโลก มีหลายคนที่บอกว่ารถรุ่นนี้หากนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย คงไม่ประสบความสำเร็จ เพราะคนไทยรายได้ต่ำ รสนิยมสูง แต่ผมกลับมองว่าไม่ใช่

ในสถานการณ์ที่ราคาน้ำมันแพงอย่างนี้ คนที่มีรายได้ประจำไม่เกินสองหมื่นบาทต่อเดือน ที่ต้องการรถยนต์ไว้ใช้งาน ต้องการรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมัน ซึ่งตรงนี้ผมมองว่าเป็นช่องว่างของตลาดที่ยังไม่มีใครลงมาเล่น

หากทา ทา ต้องการเข้ามาทำตลาดเมืองไทย ผมคิดว่าควรเปิดตัวด้วยรถยนต์รุ่นนี้ เพื่อสร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักก่อน แล้วค่อยเปิดตัวรถกระบะต่อไป นั่นคือควรที่จะวางตำแหน่งทา ทา อยู่ที่รถราคาถูกในใจผู้บริโภคก่อน

แต่ทา ทา ตอนนี้มีแผนที่จะเปิดตัวรถกระบะก่อน และกำลังโหมสร้างภาพลักษณ์บริษัทต่าง ๆ นา นา ซึ่งผมมองว่าเป็นการลงทุนที่สูญเปล่า
สิ่งที่ต้องทำตอนนี้ก็คือ หาตัวแทนจำหน่ายในแต่ละจังหวัดให้ครบ พร้อมทั้งหาตัวแทนจำหน่ายอะหลั่ยในพื้นที่ยุทธศาสตร์ เช่น วรจักร และเปิดสอนการซ่อมรถทา ทา ให้กับช่างซ่อมรถทั่วประเทศ จากนั้นก็เปิดตัวรถยนต์ ทา ทา นาโน เพื่อสร้างตำแหน่งการตลาดในใจผู้บริโภค แล้วค่อยตามด้วยการเปิดตัวรถกระบะ

อย่าให้ผู้บริโภคมองว่ารถทา ทา เป็นรถใช้แล้วทิ้ง เพราะจากประสบการณ์เดิม ๆ รถยนต์หลายแบรนด์ที่เข้ามาทำตลาดในไทย ทำตลาดได้ซักปี-สองปี ก็หายไปจากตลาด กลายเป็นว่าเมื่อเสียแล้วหาที่ซ่อมไม่ได้ ทำให้เกิดความกังวลในใจของหลาย ๆ คนที่ตัดสินใจทดลองใช้รถแบรนด์ใหม่ ๆ

อีกอย่าง จุดแข็งของ ทา ทา ก็คือรถยนต์ราคาถูก ถ้าเริ่มต้นด้วยการเข้าไปแข่งขันในตลาดรถกระบะทันที ที่มีคู่แข่งที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ในขณะที่ตำแหน่งทางการตลาดของทา ทาไม่ชัดเจน คงประสบผลสำเร็จได้ยาก

และเหตุผลที่กลุ่มเป้าหมายจะเลือกซื้อรถยนต์หรือรถกระบะซักคัน เค้ามีหลักการในการเลือกซื้ออะไรบ้าง เช่น มีศูนย์บริการทั่วประเทศ อะหลั่ยหาง่าย คุณภาพดี ประหยัดน้ำมัน สิ่งอำนวยความสะดวกในรถ ราคาเหมาะสม ขายต่อง่าย ได้ราคาดี เป็นต้น แล้วทา ทา มีสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ครบถ้วนหรือยัง หากทา ทา วางตัวเองเป็นรถคุณภาพดีเทียบเท่ากับคู่แข่งที่มีอยู่ในตลาดแล้ว นั่นก็จะไม่แตกต่าง แล้วทำไมผู้บริโภคต้องลองทา ทา ด้วยล่ะ

ผมแค่หวังให้ทา ทาอยู่ในตลาดนาน ๆ เพราะเมื่อมีการแข่งขัน ก็มีการพัฒนา ผู้บริโภคก็จะได้เลือกสิ่งที่ดีมาใช้งาน เพียงแต่ทา ทา น่ะ พร้อมหรือยัง?

ไม่มีความคิดเห็น: