วันจันทร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2551

การแข่งขัน

วันก่อนเข้าไปอ่านเว็บบอร์ดเกี่ยวกับร้านอินเตอร์เน็ต ที่เข้ามาบ่นว่าพอเราเปิดร้านฯ และท่าทางไปได้ดี ก็มีคู่แข่งมาเปิดร้านใหม่ตรงข้าม พร้อมทั้งสเปคเครื่องคอมฯที่ดีกว่า ทำให้ลูกค้าเดิมหายไปเล่นร้านใหม่

ข้อดีของการมีร้านคู่แข่งมาเปิดใกล้ ๆ กับร้านเรา ก็คือ พื้นที่ร้านเราเป็นแหล่งของร้านอินเตอร์เน็ตนั่นเอง ลองนึกตัวอย่างดูอย่างห้างพันธุ์ทิพย์ ที่เป็นแหล่งรวมร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มากมาย เปิดร้านติดกัน ตรงข้ามกัน เยื้องกัน ลูกค้าที่ต้องการซื้อคอมฯ ก็รู้จักห้างพันธุ์ทิพย์ว่าเป็นแหล่งของอุปกรณ์คอมฯ ถ้าหากว่ามีร้านนึงไปเปิดอยู่ที่เซ็นทรัลเวิล์ด ก็จะมีลูกค้าเฉพาะคนที่เดินผ่านไปผ่านมาเท่านั้น

นั่นคือ ถ้ามีร้านอินเตอร์เน็ตมาเปิดรวมกันเยอะ ๆ ลูกค้าก็จะหลั่งไหลมายังจุดนั้น ๆ เพราะถ้าร้านไหนเต็ม ก็สามารถเดินไปเล่นอีกร้านที่ใกล้ ๆ กันได้ แต่หากบริเวณนั้นมีแค่ร้านเดียว ลูกค้าไป และปรากฏว่าที่นั่งเต็ม ลูกค้าก็จะเสียเวลาในการเดินทางไปโดยเปล่าประโยชน์ ถ้าลูกค้ารายนั้นตั้งใจมาเล่นเน็ตทุกครั้งและพบว่าที่นั่งเต็มทุกครั้ง เค้าย่อมเปลี่ยนไปใช้บริการร้านเน็ตแหล่งอื่นที่เป็นแหล่งรวมร้านเน็ตจะดีกว่า เพราะร้านไหนเต็มก็สามารถไปเล่นร้านอื่น ๆ ได้

การที่จะดูว่า เมื่อไหร่จะมีร้านใหม่มาเปิดแข่งขันเพิ่มหรือไม่นั้น ก็สังเกตง่าย ๆ โดยสมมุติว่ามีร้านเราร้านเดียว มีเครื่องคอมฯอยู่ 10 เครื่อง ปรากฏว่าเครื่องเต็มตลอด และเราคิดว่าควรขยายร้านเพิ่มเติมเมื่อไหร่ นั่นก็แสดงว่าจะมีคู่แข่งเข้ามาแข่งขันในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน เพราะเรามองเห็นโอกาส คนอื่นก็มองเห็นโอกาสนั้นเช่นกัน เนื่องจากธุรกิจร้านอินเตอร์เน็ต เป็นธุรกิจที่ไม่ต้องใช้ทักษะมากนัก ทุกคนที่มีเงินก็สามารถเข้ามาดำเนินกิจการได้

แล้วเราควรทำอย่างไรดี เราต้องมองไปล่วงหน้าอย่างน้อย 1 ปี ลองคิดว่าเดือนนี้อีก 1 ปีข้างหน้าร้านเราจะดำเนินธุรกิจอย่างไร ลูกค้าจะเข้ามาใช้บริการมากน้อยแค่ไหน เป็นลูกค้ากลุ่มไหน เช่น หากคุณมองว่าธุรกิจนี้ยังสามารถขยายตัวได้อีก ก็ต้องรีบขยายร้านให้เพียงพอกับความต้องการ เปิดสาขาเพิ่มก่อนที่คู่แข่งจะตัดสินใจเข้ามา

แต่หากเรามีเงินทุนไม่เพียงพอ ผมไม่แนะนำให้กู้แบงค์นะครับ ขอให้ลงทุนแต่พอดี ไว้มีเงินเก็บเพียงพอแล้วค่อยขยายนะครับ ขอให้จำคำว่า "อยู่อย่างพอเพียง" แล้วเราจะอยู่อย่างมีความสุขครับ

ก็ปล่อยให้คู่แข่งเข้ามาเปิด เพราะอย่างน้อยก็ช่วยส่งเสริมให้ร้านเราอยู่ในทำเลที่ดี (place) ต่อจากนั้นเราก็ต้องพัฒนาตัวเราเองให้ทัดเทียมกับคู่แข่งขัน โดยนำ 4 p มาวิเคราะห์ต่อ

product - สินค้าและบริการ
สินค้าและบริการของร้านอินเตอร์เน็ต+เกมส์คืออะไร สินค้าหลักก็คือ อินเตอร์เน็ตและเกมส์ ลูกค้าที่เข้ามาในร้านตั้งใจที่จะเข้ามาใช้งานอินเตอร์เน็ตหรือเกมส์ ลองนึกภาพว่า คุณเข้าไปใช้งานร้านอินเตอร์เน็ต+เกมส์แห่งหนึ่ง ปรากฏว่า
  • อินเตอร์เน็ตช้ามาก หรือเกมส์มีแต่เกมส์เก่า ๆ ไม่ทันสมัย คุณจะรู้สึกหงุดหงิดแค่ไหน?
  • เมาส์ คีย์บอร์ด กดไม่ค่อยติด แข็งเกินไป หูฟังดังข้างเดียว คุณจะรู้สึกหงุดหงิดแค่ไหน?
  • แอร์ไม่เย็น โต๊ะ-เก้าอี้สกปรก ขาด โยกเยก คุณจะรู้สึกหงุดหงิดแค่ไหน?
  • ถามอะไรพนักงานก็ตอบไม่ได้ พนักงานพูดจาฟังไม่เข้าหู แต่งตัวสกปรก คุณจะรู้สึกหงุดหงิดแค่ไหน?

เพราะฉะนั้น คุณต้องจัดการกับสิ่งที่เป็นพื้นฐานเหล่านี้ให้ดีซะก่อน จากนั้นก็มาเสริมบริการต่าง ๆ ให้ดีขึ้น* อะไรที่ร้านคู่แข่งมีและเราไม่มีบ้าง ถ้าเราสามารถหามาเพิ่มได้ก็ทำ แต่ถ้าไม่สามารถก็ไม่จำเป็น อย่างที่ผมเคยเขียนไปก่อนหน้านี้ ที่ว่ากลยุทธ์เราคืออะไร เราต้องหาจุดต่างจากคู่แข่งให้ได้ อย่าไปทำตามคู่แข่ง เพราะยังไงเสีย ร้านคู่แข่งก็ได้เปรียบในเรื่องของอุปกรณ์คอมฯต่าง ๆ ใหม่กว่าเราอยู่แล้ว

price - ราคา
ถ้าราคาเท่ากันก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด แต่ถ้าหากร้านคู่แข่งราคาต่ำกว่า ขอให้อย่าพึ่งลดราคาตาม เพราะลดแล้วจะขึ้นกลับมาอีกครั้ง จะเป็นไปได้ยาก ยกเว้นคุณไม่มีจุดต่างจากร้านคู่แข่งเลย ก็ต้องปรับราคาลงมาให้เท่ากับคู่แข่ง

เพราะฉะนั้น คุณต้องพยายามสร้างจุดต่างจากคู่แข่ง เพราะอย่างน้อยลูกค้าก็จะมองเห็นว่าที่ต้องจ่ายราคาที่สูงกว่าคู่แข่ง ก็เพราะร้านคุณมีจุดต่างที่เห็นได้ชัดจากคู่แข่ง

place - ทำเล
ร้านเราเป็นจุดดึงลูกค้าหรือไม่? ถ้ายังก็ต้องเสริมและสร้างให้เกิดขึ้น*

promotion - การสื่อสารการตลาด
กิจกรรมต่าง ๆ ภายในร้าน โดยเฉพาะร้านเกมส์สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้หลากหลาย*

* หมายเหตุ : บางเรื่องผมจะไม่พูดถึง เพราะบางอย่างก็เป็นกลยุทธ์ของร้านผมเช่นกัน เพราะฉะนั้นขอให้เพื่อน ๆ คิดวิเคราะห์ด้วยตนเองนะครับ

ลองหาข้อมูลและวิเคราะห์ดูครับ ผมเชื่อว่าตลาดร้านอินเตอร์เน็ตและเกมส์ยังเติบโตได้อีกเยอะ ทุกคนสามารถอยู่รอดได้

ไม่มีความคิดเห็น: